วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

เปิดบัญชีธนาคารที่ไต้หวันไม่ยากอย่างที่คิด


การอยู่ต่างประเทศถามว่าจำเป็นมั้ยต้องเปิดบัญชี ผมคิดว่าแล้วแต่การตัดสินใจของแต่ละคน ของผมเองก็คิดแล้วคิดอีกคิดอีกคิดแล้ว ว่าเปิดบัญชีที่ไต้หวันดีมั้ย ผมมีเรื่องที่ลังเลอยู่คือ

- ถ้าใช้บัญชีไทย ต้องใช้บัตร ATM ของธนาคารที่ไทยในการถอน ถอนครั้งหนึ่งเสีย 100 บาท
- ถ้าถอนมาก้อนเดียวเดือนละครั้ง (เพราะไม่อยากเสีย 100 บาทบ่อยๆ) ก็ต้องหาที่เก็บเงินสด
- สบายใจมั้ยถ้ามีเงินสดก้อนใหญ่ๆเก็บไว้กับตัว

อันนี้เป็นสามข้อที่ผมคิดไปคิดมา ก็ได้ข้อสรุปว่า "เปิดบัญชีที่ไต้หวันดีที่สุด"

จากนั้นผมจึงเริ่มหาข้อมูลว่าเปิดบัญชีอย่างไร และเปิดบัญชีกับธนาคารไหนดี

อย่างแรกคือ ถ้าจะเปิดบัญชีสำหรับคนต่างชาติ ต้องมีบัตร ARC หรือบัตรประจำตัวผู้พำนักในไต้หวันเสียก่อน ซึ่งผู้ที่จะมีบัตรนี้ได้ต้องได้วีซ่าชนิด Resident แต่คราวนี้ในของผมยังไม่เข้าข่ายได้รับวีซ่าประเภทนี้ต้องทำอย่างไร ทางไต้หวันเขามีทางออกให้ครับ นั่นคือ เราต้องไปขอใบที่เรียกว่า Record of ID Number ใบนี้เปรียบเสมือนเอกสารแทนบัตร ARC ซึ่งจะมีเลขประจำตัวที่ทางการไต้หวันออกให้ อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องมีคือ ตราประทับ อันนี้เท่าที่อ่านมาเห็นว่าถ้าจะเปิดบัญชีกับไปรษณีย์ต้องใช้ตราประทับเสมือนลายเซ็นของเราในการขอเปิดบัญชี อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ หนังสือเดินทาง อันนี้ขาดไม่ได้

สรุปสิ่งที่ต้องเตรียมเพิ่มเติมคือ 1. เอกสาร Record of ID Number 2. ตราประทับ

ส่วนการเปิดบัญชี จากที่ผมอ่านมา คนที่ยังไม่มีบัตร ARC สามารถเปิดบัญชีได้กับธนาคารเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น คือ First Bank , Taishin Bank , Bank of Taiwan และ Chunghwa Post (ไปรษณีย์ไต้หวัน)

วันนี้ผมจึงเริ่มภารกิจของผมด้วยการไปที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งตั้งอยู่ที่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า Xiaonanmen วิธีการคือนั่งรถไฟฟ้าสายสีเขียวลงที่สถานีนี้ แล้วออกทางประตูหมายเลข 2 เดินอีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว


ภาพทางเข้าอาคารสำนักงาน ก็อปรูปจากกูเกิ้ลแม็ป



เมื่อไปถึงจะมีคุณป้าๆที่เป็นอาสาสมัคร (ที่นี่ผู้สูงอายุหลายคนมักจะเป็นอาสาสมัครสถานที่ราชการหรือที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ) คุณป้าแนะนำดีมาก เมื่อไปถึงบอกคุณป้าว่าขอ Record of ID คุณป้าก็ให้เอกสารมาทันที หลังจากกรอกแล้วก็ไปถ่ายเอกสารหน้าหนังสือเดินทาง(หน้าที่มีรูปของเรา) 1 แผ่น ถ้าไม่ได้เตรียมมาที่สำนักงานมีเครื่องถ่ายเอกสารบริการตัวเอง (เสียดายไม่ได้ถ่ายมา)

จากนั้นก็ไปกดบัตรคิว รอไม่นานก็ได้กระดาษใบขาวๆนี้มา


จากนั้นต่อมาผมก็ไปทำตราประทับ ตราประทับนี้ผมไม่แน่ใจว่าร้านอื่นๆเป็นยังไง แต่ร้านที่ผมไปอยู่ห่างจากสถานี Songjiang Nanjing ออกทางออกเลข 8 แล้วเดินประมาณร้อยเมตร รอประมาณ 1 ชั่วโมง ผมเสียค่าทำตราประทับนี่ประมาณ 200 บาท ตอนไปทำผมพูดแค่คำเดียว คือคำว่า "ยิ้นจ่าง" พร้อมยื่นกระดาษที่เขียนชื่อภาษาอังกฤษไป คุณลุงแกพูดจีนตลอด ผมก็เอออย่างเดียว อยากจะฟังรู้เรื่องบ้าง แต่ตอนบอกราคาผมฟังออกนะ เออร์ป่ายหยวน เนี่ย 55555


ผมสังเกตว่าร้านทำตราประทับที่นี่นอกจากทำตราประทับแล้วยังรับปั้มกุญแจอีกต่างหาก พูดถึงตราประทับ ตอนแรกในหัวผมคิดว่าตราประทับต้องเป็นชื่อผมที่เป็นภาษาจีน แต่ปรากฎว่าเขาก็เอาชื่อภาษาอังกฤษเรานั่นแหละไปใส่ เออ...ก็ง่ายดีนะ

ผ่านมาครึ่งวัน ผมนั่งรถไฟฟ้ากลับไปยังที่ทำการไปรษณีย์แถวที่พัก สาเหตุที่ผมเลือกเปิดบัญชีที่ไปรษณีย์ เพราะนอกจากจะสามารถเปิดบัญชีโดยไม่ต้องใช้บัตร ARC แล้ว ที่ตั้งของไปรษณีย์ก็ใกล้ที่พัก และการทำบัตร ATM ก็ยังไม่เสียค่าทำบัตรอีกด้วยถ้าฝากเกิน 100 ดอลลาร์ไต้หวันขึ้นไป


ที่ทำการไปรษณีย์เขตหลู่โจว แถวที่พักของผม ภาพจากกูเกิ้ลแม็ป



เมื่อไปถึงไปรษณีย์ ผมก็ไปที่เคาท์เตอร์ปกติ พอเอ่ยปากว่า "ผมอยากจะเปิดบัญชี" เท่านั้นแหละ เรื่องใหญ่ขึ้นมาทันที พนักงานเดินกันให้ควั่ก ถามกันไปกันมา จากนั้นผมก็ถูกโยกให้ไปเปิดบัญชีกับพนักงานที่พูดภาษาอังกฤษได้ เขาขอเอกสารผมไปทั้งหมด ทั้ง Record of ID ทั้งพาสปอร์ต และตราประทับ และมีที่เขาขอดูเพิ่มคือบัตรประชาชนของผม และจดหมายตอบรับการเข้าเรียนของทางมหาวิทยาลัย

การดำเนินการใช้เวลาค่อนข้างนานพอสมควร ซึ่งผมก็เข้าใจ เพราะเราเป็นคนต่างชาติ แน่นอนว่าการทำธุรกรรมทางการเงินแบบนี้เขาก็คงต้องคัดกรองพอสมควร แต่พนักงานเขาก็พูดจาดีนะ ไม่มีปัญหาอะไร ผมกรอกเอกสารอยู่ไม่กี่ใบ รู้สึกว่ากรอกเอกสารน้อยกว่าตอนเปิดบัญชีที่ไทยอีก แต่ที่ช้าคือกระบวนการมากกว่า

หลังจากรอประมาณหนึ่งชั่วโมง พนักงานก็ให้สมุดบัญชีพร้อมบัตร ATM มา ซึ่งจากนั้นผมก็ลองไปกดเงินที่ตู้ ATM ของไปรษณีย์เลย ปรากฎว่าเงินออกมาตรงตามที่กดไว้ (ถ้าออกมาเกินนี่งานเข้าแน่ๆ) เป็นอันว่าสำเร็จ ไม่ต้องเก็บเงินก้อนโตไว้ที่ห้องพักอีกแล้ว



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น