วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

สมัครเรียนภาษาที่มาเลเซีย และทำวีซ่ามาเลเซีย

ผมไปมาเลเซียมาสามครั้งแล้ว สาเหตุที่ไปประเทศนี้บ่อยเพราะผมชอบภาษามาเลย์ หัดเรียนภาษามาเลย์ด้วยตนเองมาโดยตลอด และค่าใช้จ่ายที่ถูกทำให้มีโอกาสไปเที่ยวประเทศนี้บ่อย ผมกำลังจะไปเรียนภาษาอังกฤษที่มาเลเซียครับ สาเหตุที่เลือกเรียนที่นี่เพราะเหตุผลข้างต้น นั่นคือชอบภาษามาเลย์ ค่าใช้จ่ายถูก ชอบประเทศที่มีวัฒนธรรมแบบหลากหลาย เลยคิดว่าถ้าเรียนภาษาอังกฤษที่นี่ก็น่าจะได้พัฒนาภาษามาเลย์เพิ่มเติมด้วย เอาล่ะครับ เข้าเรื่องดีกว่า ผมตัดสินใจไปเรียนภาษาอังกฤษที่สถาบัน ELS Language Centre ที่ Kuala Lumpur เป็นเวลา 6 เดือนครับ ผมสมัครเองนะครับไม่ได้ผ่านเอเจนซี่ ความจริงมีเอเจนท์ที่รับดูแลด้านการสมัครเรียนที่ ELS หลายเจ้าเหมือนกัน หากไม่อยากยุ่งยากหรือเสียเวลามาก สมัครผ่านเอเจนท์ก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ แต่ของผมนั้นสมัครเองเพราะใจร้อน อยากดำเนินการเอง จะขอเล่าเรื่องการสมัครเรียนเองนะครับ อย่างแรกเลยให้เตรียมหลักฐานให้พร้อมเสียก่อน โดยหลักฐานที่ใช้ในการสมัครมีดังนี้

  1. รูปถ่ายหน้าตรงขนาด 2 นิ้ว พื้นหลังสีฟ้า

  2. สำเนาพาสปอร์ต โดยการสแกนพาสปอร์ต"ทุกหน้า"ย้ำว่าทุกหน้าตั้งแต่ปกหน้าถึงปกหลัง

  3. สำเนาทรานสคริปฉบับภาษาอังกฤษ

  4. เอกสารการตรวจสุขภาพ หรือ Pre-arrival Medical Screening form and report สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่ http://www.els.edu.my/wp-content/uploads/Pre-arrival-medical-screening-Health-Examination-Form.pdf


[caption id="attachment_68" align="alignnone" width="225"]Pre-arrival Medical Screening form and report Pre-arrival Medical Screening form and report[/caption]

[caption id="attachment_71" align="alignnone" width="225"]International certificate of vaccination and prophylaxis International certificate of vaccination and prophylaxis[/caption]

ข้อที่วุ่นวายที่สุดสำหรับผมคือข้อ 2 และ 4 เพราะขี้เกียจมาสแกนหน้าพาสปอร์ตทุกหน้า แต่ก็ต้องทำ ที่หนักกว่าคือข้อ 4 ซึ่งผมจะขออธิบายให้ฟังแบบง่ายที่สุดแล้วกันนะครับ ให้เราปริ้นแบบฟอร์มนี้มาจากคอมพิวเตอร์ แล้วกรอกรายละเอียดลงไป หลังจากนั้น ให้ไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลไหนก็ได้ครับ โดยการตรวจให้นำแบบฟอร์มนี้ไปด้วยแล้วขอให้คุณหมอเขียน โดยการตรวจให้ตรวจทั้งเลือด ปัสสาวะ เอ็กซเรย์ รวมถึงตรวจทั่วไปนะครับ อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องไปทำคือฉีดวัคซีน ที่ฉีดวัคซีนผมแนะนำให้ไปฉีดที่ โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อนนะครับ อยู่แถวอนุเสาวรีย์ชัย เมื่อฉีดยาเสร็จเขาจะออกหนังสือรับรองหรือ International certificate of vaccination and prophylaxis หรือภาษาง่ายๆก็คือสมุดปกเหลืองนั่นเอง เมื่อเสร็จแล้วให้นำเอาเอกสารทั้งหมดสแกนเข้าไปในคอมพิวเตอร์ แล้วก็เข้าไปที่ เว็บไซต์ http://www.els.edu.my/apply-to-els/apply-now/ โดยสามารถกรอกแบบฟอร์มการสมัครจากในเว็บไซต์พร้อมแนบเอกสารได้เลยครับ หลังจากนั้นก็จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อเรากลับมาทางเมล์ หลังจากนั้นเราต้องจ่ายค่าดำเนินการขอวีซ่า USD1000 ก่อนนะครับ แล้วจะใช้เวลาประมาณ 4 สัปดาห์ เมื่อวีซ่าเราได้รับการอนุมัติแล้ว หลังจากนั้นเขาจะขอให้เราคอนเฟิร์มที่อยู่ เพื่อที่เขาก็จะส่ง Visa Approval Letter กับ Letter of Offer มาให้เราทางไปรษณีย์ เพื่อที่จะนำเอกสารเหล่านี้ไปขอวีซ่าที่สถานทูต โดยในขั้นตอนนี้เราต้องจ่ายค่าเรียนทั้งหมดให้กับทางสถาบันครับ เมื่อเอกสารทั้ง 2 อย่างส่งมาถึงที่บ้าน ใช้เวลาประมาณ 3 วันหลังจากเราคอนเฟิร์ม จากนั้นก็ไปที่สถานทูตมาเลเซียประจำประเทศไทยเพื่อทำวีซ่าได้เลยครับ โดยเอกสารที่ใช้ขอวีซ่ามีดังนี้

  1. รูปถ่ายหน้าตรงขนาด 2 นิ้ว พื้นหลังสีขาว ใช้ 1 รูป

  2. พาสปอร์ตตัวจริง

  3. สำเนาพาสปอร์ต ถ่ายเฉพาะหน้าที่มีรูปของเรา 2 ชุด

  4. สำเนาบัตรประชาชน 2 ชุด

  5. จดหมาย Visa Approval Letter 

  6. จดหมาย Letter of Offer (เผื่อเขาจะขอ แต่ตอนผมไปเขาไม่เอาเอกสารฉบับนี้)


[caption id="attachment_63" align="alignnone" width="225"]Visa Approval Letter Visa Approval Letter[/caption]

จากนั้นเดินทางไปที่สถานทูตมาเลเซีย สถานทูตนั้นตั้งอยู่ที่ 33-35 ถนนสาทรใต้ ทุ่งมหาเมฆ หรือโทรศัพท์สอบถามก่อนได้ที่ 02-629-8000 โทรถามเป็นภาษาไทยได้เลยครับ ส่วนวิธีการเดินทาง นั่งรถไฟฟ้า MRT ลงที่สถานีลุมพินี ออกทางถนนสาทรใต้ จากนั้นก็เรียกมอเตอร์ไซค์วินก็ได้ครับ แต่ผมนั้นใช้วิธีเดินก็เดินตรงอย่างเดียวเลยครับ จากรถไฟฟ้าประมาณ 700 เมตรก็ถึงสถานทูต โดยจะเป็นซอยเข้าไป เริ่มแรกผมไม่รู้ก็เข้าไปตรงรั้วสถานทูตเลย ตรงนั้นไม่ใช่ที่ทำวีซ่านะครับ ที่ทำวีซ่าจะอยู่บริเวณอาคารก่อนถึงสำนักงานสถานทูตครับ ถามจาก รปภ.ที่นั่นก็ได้ครับ สถานทูตเปิด 9.00 โดยเวลายื่นวีซ่าคือ 9.00-11.00 น.ส่วนเวลารับวีซ่าคือ 14.00-16.00 น. นะครับ แนะนำให้ไปก่อนเวลาจะได้ไม่ต้องรีบมาก ไปทำวีซ่าที่นี่ไม่ต้องนัดล่วงหน้านะครับ ไปทำได้เลย การทำก็ไม่ยากครับ ไปถึงขอแบบฟอร์มจากเจ้าหน้าที่มากรอก จากนั้นก็ยื่นแบบฟอร์มพร้อมเอกสารให้เจ้าหน้าที่ ใช้เวลาไม่นานครับ เจ้าหน้าที่พูดค่อนข้างดี ในป้ายเขียนว่าวีซ่าใช้เวลาทำสองวันทำการ แต่ของผมยื่นเสร็จเจ้าหน้าที่บอกว่าพรุ่งนี้มาเอาได้เลย สรุปคือของผมทำวีซ่าวันเดียวครับ โดยเจ้าหน้าที่ก็จะออกใบนัดมาให้ พอไปรับวีซ่าก็นำใบรับไปด้วยก็เสร็จสิ้นกระบวนการครับ

[caption id="attachment_62" align="alignnone" width="225"]วีซ่ามาเลเซีย วีซ่ามาเลเซีย[/caption]

โดยวีซ่ามาเลเซียที่ผมไปทำนั้นไม่ใช่วีซ่านักเรียนนะครับ เป็น Single entry visa หรือวีซ่าเข้าออกครั้งเดียว วีซ่านี้มีอายุสามเดือน โดยเมื่อเราได้วีซ่านี้ เมื่อเข้าไปที่มาเลเซียแล้วเขาจะเปลี่ยนเป็นวีซ่านักเรียนให้ในภายหลังครับ โดยวีซ่านักเรียนนั้นทางสถาบันเขาดำเนินการให้เราแล้วโดยขอไปกับทางตรวจคนเข้าเมือง แล้วทางตรวจคนเข้าเมืองเขาถึงส่ง Visa Approval Letter มาให้เราไงครับ ผมมักจะต้องอธิบายเรื่องนี้กับคนรอบข้างเสมอๆเพราะมันค่อนข้างซับซ้อนนิดนึง พอดีไม่ค่อยเห็นใครมารีวิวเรื่องนี้เลยขอมารีวิวซะหน่อย :D

วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ทำเรื่องขอจบคณะรัฐศาสตร์ รามคำแหง

อยู่ดีๆก็อยากเขียนบล็อกเรื่องเกี่ยวกับการขอจบการศึกษา สืบเนื่องจากผมเรียนอยู่คณะรัฐศาสตร์ แพลนซี รามคำแหง แล้วเรียนครบทุกหลักสูตรแล้ว เลยอยากมาแชร์การ"ขอจบ"ให้ทุกท่านได้รู้กัน เพราะว่าก็มีคนถามมาเหมือนกันว่าขอจบต้องทำไง ผมเพิ่งไปทำเรื่องขอจบที่ราม เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 58 ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ในระหว่างการรอรับใบรับรองคณะอยู่นะครับ เอาล่ะ เข้าเรื่องกันดีกว่า เมื่อเรารู้ว่าเทอมนี้เราสอบผ่าน แล้วกระบวนวิชามันครบตามหลักสูตร นั่นหมายความว่าเราสามารถทำเรื่องขอจบได้เลย เราก็ต้องเตรียมเอกสารสำหรับขอจบกัน เพื่อความรวดเร็ว และไม่ต้องเดินไปเดินมา สิ่งที่ต้องเตรียมมาจากบ้านคือ

  1. ใบเสร็จลงทะเบียนเรียนย้อนหลัง 3 ภาค คือภาคที่เราเรียนล่าสุด และย้อนหลังไป 2 ภาคการศึกษา

  2. บัตรประจำตัวนักศึกษา

  3. บัตรประชาชน

  4. ลงทะเบียนภาวะการมีงานทำ(แนะนำว่าให้กรอกไปจากที่บ้านแล้วปริ้นมาเลย ไม่ต้องมาทำที่ราม เหนื่อยนะขอบอก) จะลงทะเบียนก็ตามลิ้งค์นี้เลย คลิกที่นี่

  5. ปากกา (อันนี้จำเป็นมากๆ)


เมื่อเตรียมหลักฐานทั้งหมดนี้แล้ว ก็ไปที่มหาวิทยาลัย เมื่อไปถึงผมแนะนำให้ไปตามสเต็ปดังนี้เลยนะครับ

  1. ลงรถเมล์แล้วเดินไปที่ร้านถ่ายรูป(แนะนำร้านถ่ายรูปตรงข้างศูนย์หนังสือรามตึกสีส้ม) บอกเจ๊เจ้าของร้านว่าถ่ายรูปชุดครุย เจ๊เขาจะจัดการให้เสร็จสรรพ ถ่ายรูปเสร็จรอ 1 ชั่วโมง รูป 2 นิ้ว 5 รูป ราคา 100 บาท "จ่ายตอนถ่ายรูปเสร็จ"

  2. ระหว่างรอรูป ให้เดินไปที่ตึก KLB ขอใบเช็คเกรด ค่าใบเช็คเกรด 20 บาท

  3. ไปที่ร้านถ่ายเอกสารปากทางเข้าตึก KLB ขอถ่ายสำเนา บัตรประชาชน และบัตรนักศึกษา "ให้สองบัตรอยู่ในแผ่นเดียวกัน" บอกเขาเขาเข้าใจ

  4. ใบเสร็จลงทะเบียนเรียนทั้ง 3 ใบ "ใช้ใบสำเนานะครับ" ไม่ใช่ใบจริง (ผมยื่นใบจริงไปโดนไล่ลงมาถ่ายสำเนาเสียเวลามากๆ) เพราะฉะนั้น ถ่ายสำเนาใบเสร็จลงทะเบียนด้วย

  5. ใครที่ไม่พกปากกามา ไปซื้อปากกามาซะ ขึ้นไปบนตึกคณะ ต้องกรอกใบจบ เขาไม่มีปากกาให้เด้อ ต้องเดินลงมาซื้อปากกาเอง

  6. เดินไปตึกอธิการบดี ตรงด้านหน้าหอนาฬิกา บอกว่า"มาจ่ายค่าใบรับรองคณะ" จ่ายไป 20 บาท เขาจะให้ใบเสร็จมา


สรุป ขอจบให้ใช้เอกสารดังต่อไปนี้

  1. สำเนาบัตรประชาชน บัตรนักศึกษา สองบัตรให้อยู่ในกระดาษแผ่นเดียวกัน เอาเฉพาะด้านหน้า

  2. สำเนาใบเสร็จลงทะเบียนเรียนภาคล่าสุด และย้อนหลังอีกสองภาค

  3. ใบขึ้นทะเบียนภาวะการมีงานทำ

  4. รูปถ่ายสวมชุดครุย 2 นิ้ว 3 รูป

  5. ใบเสร็จค่าใบรับรองคณะ


เมื่อทำกระบวนการนี้ครบแล้วก็เดินกลับไปที่ร้านถ่ายรูป เอารูปพร้อมหลักฐานที่เหลือ เดินไปที่ตึกคณะรัฐศาสตร์ได้เลย เมื่อไปถึงขึ้นไปบนชั้น 2 ตรงที่เขาดูผลสอบกันอ่ะน่าจะเก็ตนะ เมื่อเข้าไปในห้องแล้ว หันไปทางซ้ายจะเห็นตั้งที่เขาวางแบบฟอร์มขอจบอยู่ เดินไปหยิบมากรอกได้เลย เมื่อกรอกเสร็จก็นำใบที่กรอกพร้อมหลักฐานดังกล่าวยื่นที่เคาท์เตอร์ แล้วเขาจะเอาใบนัดให้เรา ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนเพื่อรับใบรับรองคณะ ระหว่างนี้ก็สามารถเช็คขั้นตอนการขอจบได้ตามลิ้งค์นี้ http://e-service.ru.ac.th:8088/e_services/frm.php ด้วยขั้นตอนที่มันเยอะแล้วต้องไปหลายตึก ก็เลยอยากเอามาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านจะได้ไม่ต้องวิ่งไป-มา ขนาดผมว่าผมอ่านมาระดับหนึ่งแล้วก็ยังวิ่งไปวิ่งมาหลายรอบเลย มาเขียนคราวนี้ก็อยากจะเขียนให้ละเอียดที่สุด ถ้ามีสิ่งไหนที่ขาดตกบกพร่องไปขออภัยด้วยนะครับ หลังจากนี้ก็รอเอาใบรับรองคณะ หลายคนที่เช็คกระบวนการขอจบในเน็ตอาจจะสงสัยว่า ทำไมในเน็ตมันอัพเดทว่าออกใบรับรองคณะแล้ว ทั้งๆที่ยังไม่ถึงวันที่ทางคณะนัดไว้ เช่น ในใบนัดเขียนว่ารับใบรับรองคณะได้วันที่ 26 แต่เช็คในเน็ตบอกว่าออกใบรับรองตั้งแต่วันที่ 10 แล้วเราจะไปเอาก่อนได้มั้ย บอกเลยว่าได้ตามสะดวกครับ โดยขั้นตอนการรับใบรับรองคณะมีดังนี้

  1. เตรียมรูปถ่ายใส่ชุดครุยจากบ้านไปเรียบร้อยให้นะครับ ใช้ 1 รูปครับ

  2. เตรียมใบนัดที่ทางคณะออกให้ ไปที่ตึกคณะชั้น 2 รับใบรับรองคณะ

  3. เตรียมสำเนาบัตรนักศึกษา "ถ่ายทั้งด้านหน้าและด้านหลังของบัตร" พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง

  4. เช็คครั้งที่จบ/ลำดับที่จบ โดยสามารถเช็คได้จากคอมที่คณะครับ

  5. จำครั้งที่จบ/ลำดับที่จบให้ดีๆ เดินไปที่ตึกอธิการ จ่ายเงินค่าใบรับรองสภา ทรานสคริป ถ้าจะเอาทรานสคริปภาษาเดียวจ่าย 490 เอาสองภาษาจ่าย 520 จะได้ใบเสร็จมาสามใบ

  6. ไปที่ตึก สวป. ไม่ใช่ศูนย์ one stop service ที่ตึก KLB นะครับ ผมหลงไปมาแล้ว ไปที่ตึก สวป. ตรงข้ามกับตึก KLB ชั้นล่างคือชั้นที่เราเดินเข้าไปนั่นแหละ ไม่ต้องขึ้นบันได ขั้นแรก ไปที่ช่อง 3 (ไม่ใช่ตึกมาลีนนท์นะ) กรอกข้อมูลเอกสารขอใบทรานสคริปให้ครบถ้วน ขั้นตอนต่อมา ไปที่ช่อง 4 กรอกข้อมูลเอกสารใบรับรองสภามหาวิทยาลัยให้ครบถ้วน พร้อมแนบหลักฐานเพิ่มเติมคือ รูปถ่ายสวมชุดครุย 2 นิ้ว 1 รูป และสำเนาบัตรนักศึกษาตามที่เขียนไว้แล้วข้างต้น หลังจากนั้นก็จะได้ใบนัด ก็ให้ไปเอาเอกสารคือใบทรานสคริปพร้อมใบรับรองสภา ตามวันที่ทางมหาวิทยาลัยนัดไว้ครับ แล้วก็รอการประกาศรับพระราชทานปริญญาบัตรได้เลย


สุดท้ายก็ขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตรามคำแหงทุกคนด้วยนะครับ รวมถึงตัวผมเองด้วย

หมายเหตุ

  1. การขึ้นทะเบียนภาวะการมีงานทำ ถ้าที่บ้านไม่มีปริ้นเตอร์ หรือไม่มีอินเตอร์เน็ต สามารถไปทำที่รามได้ โดยเมื่อไปที่ตึกคณะแล้วให้ไปเอาแบบฟอร์มขอจบใบสีเขียว ซึ่งในใบนั้นมันจะมีอีกสองใบคือใบสำหรับการขอเข้าไปใช้คอมในศูนย์คอมพิวเตอร์รามที่ตึกเวียงคำ ชั้น 2 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย  เมื่อไปถึงก็เอาใบที่แนบติดกับแบบฟอร์มยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ได้เลย

  2. ใบเสร็จย้อนหลังถ้าไม่มี ขอที่ตึก KLB ได้

  3. เรื่องหนึ่งที่ผมคาใจมากๆตอนก่อนทำเรื่องขอจบคือ ผลสอบรามเป็นอะไรที่ออกช้าาาาาาาาาาาามากกกกกกกกกกกกก (ทำเสียงยาวๆยานๆ) ผลสอบเรามันออกที่บอร์ดคณะแล้ว แต่ในอีเซอร์วิสมันยังไม่ออก หรือในอีเซอร์วิสออกก็ดันมีตัวสี่เหลี่ยมแนบท้ายอีก (ผลสอบไม่เป็นทางการ) ถามว่าเมื่อเรารู้แล้วว่าผลสอบเราผ่านแน่ๆ แต่ในเน็ตมันยังไม่ออกจะขอจบเลยได้มั้ย บอกเลยว่า"ได้" ทำเรื่องขอจบได้เลยนะครับ เพราะยังไงทางเจ้าหน้าที่เขาก็ต้องตรวจสอบอยู่แล้ว

  4. การเช็คผลการอนุมัติจบที่ลิ้งค์ http://approve.ru.ac.th จะอัพเดทค่อนข้างช้า เพราะฉะนั้นผมว่าไม่ต้องใส่ใจหรอกครับ พอถึงวันนัดรับใบรับรองรองคณะก็ไปเช็คครั้งที่จบกับลำดับที่จบจากคอมที่คณะดีกว่า สองอันนี้สำคัญนะครับ เพราะจะต้องกรอกในรับรองสภาและทรานสคริป

  5. หากเช็คขั้นตอนการขอจบจากลิ้งค์นี้ http://e-service.ru.ac.th:8088/e_services/frm.php แล้วเห็นว่าทางคณะออกใบรับรองแล้ว แล้วอยากจะไปเอาก่อนวันนัด แนะนำว่าไม่ควรไปแต่เนิ่นๆ ควรจะไปก่อนวันนัด"ตามใบนัด"สัก 4-5 วัน เพราะมีเคสที่พอใบรับรองออกปุ๊บก็ไปเอาทันที ปรากฏว่าสภามหาวิทยาลัยยังไม่อนุมัติครั้งที่/ลำดับที่จบ ส่งผลให้เสียเวลาในการกลับมาทำเรื่องขอทรานสคริปอีก