วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Grindsize...ไปเพราะอยาก ไม่อยากก็ไม่ไป

"ราคา 100 บาท แต่เห็นว่าเดินมา ลดให้ 20 บาท"

วันนี้ 23 กุมภาพันธ์ 2562 ผมได้มีโอกาสไปร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ย่านใจกลางกรุงเทพ นั่นคือร้าน Grindsize Bangkok ร้านกาแฟของพี่เซน ฌาณวิทย์ ไชยศิริวงศ์ ผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์ ที่น่าจะต้องมีคนรู้จักบ้างแหละ 55555 (โดนพี่เซนเล่นแน่กู ขอโทษนะค้าบบบบ)




ก่อนอื่นขอเล่าที่มาที่ไปว่าทำไมผมถึงไปร้านกาแฟร้านนี้ก่อน เนื่องด้วยผมทำงานอยู่สถานีโทรทัศน์บลูสกาย ซึ่งพี่เซนก็มาอ่านข่าวที่นี่ และด้วยอัธยาศัยที่ดีของพี่เซน ก็เลยทำให้รู้ว่าพี่เซนมีร้านกาแฟเป็นของตัวเอง ก็เลยมีความตั้งใจเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะต้องไปขอเนียนกินฟรีลองกินสักครั้งให้ได้

และในวันนี้เป็นวันเสาร์ เป็นวันที่ผมมาทำงาน (ทำงานหกวันก็ต้องทำใจ TT) หลังรายการข่าวเช้าเสร็จ ก็มีเวลาว่างสองชั่วโมง จะทำอะไรดีล่ะ แล้วภาพร้านกาแฟพี่เซนก็แว้บขึ้นมาบนหัว เหมือนดังหลอดไฟที่ปิ๊งขึ้นมาแแบบในการ์ตูน

ว่าแล้วก็ไปถล่มร้านพี่เซนดีกว่า...




ร้าน Grindsize ตั้งอยู่ใน Shinsen Fish Market ซอยสุขุมวิท 39 วิธีการเดินทางก็ง่ายมากครับ แค่เดินจากออฟฟิศของผมที่ตึกกรุงเทพทาวเวอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เดินตรงมาเรื่อยจนถึงตึกอิตัลไทย (ของเสี่ยเปรมชัยอ่ะ) แล้วเลี้ยวซ้ายข้ามสะพานข้ามคลองแสนแสบจากนั้นก็ตรงแหน่วเลย Shinsen Fish Market จะอยู่ซ้ายมือ แล้วร้านของพี่เซน (จากนี้ขอเรียกว่าร้านพี่เซนนะ) จะอยู่ข้างหน้าเลยครัช เห็นง่ายมากกกกก

พอดีรูปหน้าร้านไม่ได้ถ่ายไว้เลย เสียดายมากกกกก

ส่วนคนอื่นจะเดินทางยังไง ก็แล้วแต่ท่านแล้วกัน ฮ่าๆๆๆ

เมื่อมาถึงก็เจอหมาสองตัววิ่งมาต้อนรับเลย ตอนแรกก็ตกใจเพราะไม่ทันตั้งตัว หมาสองตัวเป็นหมาของลูกค้าที่ร้าน ขี้เล่นสุดๆ

หมาหนึ่งในสองตัวที่มาต้อนรับ

ด้วยความที่ไม่ใช่คนทานกาแฟ เลยสั่งโกโก้ของร้านมากินแทน

เมนูของทางร้าน ราคาตามมาตรฐานและทำเลครับ

ระหว่างรอพี่เซนทำโกโก้ให้นั้น ก็ลองเดินวนดูร้านไปเรื่อย ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนที่มีต่อมเสือกประมาณหนึ่ง ก็ไปอ่านเรื่องราวของร้านพี่เซนมาบ้างแล้วก็นึกภาพว่าร้านพี่เซนน่าจะเป็นร้านที่เหมือนกับร้านกาแฟตามห้างที่ผมเคยเจอ แบบว่าร้านใหญ่ มีเมนูมาตรฐาน มีพนักงาน 2-3 คน ลูกค้ามาก็นั่งดื่มกาแฟไป ไถไอแพดไป แล้วก็จ่ายเงินกลับบ้าน คิดแค่นั้นจริงๆ

ภายในร้านนอกจากเก้าอี้กับโต๊ะแล้ว (แล้วจะพิมพ์ไปทำไม) ก็เห็นมีของขายอื่นๆด้วย เช่น หมวก, หลอดกาแฟ, ข้าว เป็นต้น






จากนั้นก็ไม่นานได้โกโก้มากินกันซักที




ด้วยความอยาก ความรีบ หรือว่าโง่ก็ไม่รู้ ได้โกโก้มาปุ๊บก็ดูดจ๊วบทันที พอดูดไปอึกแรกก็คิดในใจว่า "อืม...นี่โกโก้ร้านพี่เซนนี่มันเข้มข้นจริงๆนะ ขมเลย" ไม่มั่นใจดูดอีกครั้งที่สอง "อืม...นี่มันโกโก้ขนานแท้เลยนะ สงสัยเทรนด์โลว์ชูการ์กำลังมาแรง" พอจะดูดอีกทีก็สังเกตว่า ทำไมแก้วโกโก้ที่เราได้มันมีสองสีนะ เลยลองคนๆดู แล้วก็ดูดดดดดด

"อืม...โง่เอง ไม่ยอมคนก่อน ปั๊ดโธ่!!!"

ระหว่างที่ดูดโกโก้ไปนั้น ก็เห็นมีลูกค้าเข้ามาประปราย สิ่งที่ผมสังเกตคือ มีความรู้สึกว่าพี่เซนให้ความเป็นกันเองกับลูกค้ามาก ดูแล้วน่าจะใช้บริการบ่อยจนมีความสนิทสนมกัน บางคนนี่นั่งคุยกับพี่เซนนานๆเลยก็มี

หลังจากนั้นก็ได้คุยกับพี่เซน ซึ่งพี่แกมานั่งคุยกันบนโต๊ะเลยทีเดียว จากการคุยกับพี่เซนทำให้รู้ว่า พี่เซนงกทำร้านคนเดียว ไม่มีลูกจ้าง และได้เล่าอะไรให้ฟังอีกหลายอย่าง เอาเท่าที่จำได้ พี่เซนบอกว่า แค่งานผู้ประกาศก็พอเลี้ยงตัวได้แล้ว แต่ที่ทำร้านกาแฟนี่อยากให้เป็นเหมือนศูนย์กลางของชุมชน เป็นที่ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ เฮ้ย...ธุรกิจเป็นไงมั่ง ไปเมืองนอกเป็นไง อะไรประมาณนั้น เรื่องการทำเป็นธุรกิจ หรือเปิดเฟรนไชส์เป็นเรื่องรอง และอีกสารพัดไอเดียของพี่เซน ซึ่งผมยอมรับเลยว่าลืมเห็นด้วยและเปิดมุมมองใหม่เลยทีเดียว เพราะมีช่วงหนึ่งเทรนด์ร้านกาแฟดังมาก บรรดามนุษย์เงินเดือนทั้งหลายที่อยากเจ๊งด้วยมือของตัวเองมีธุรกิจเป็นของตัวเอง มักจะมองธุรกิจร้านกาแฟเป็นอันดับต้นๆ

เปิดร้านกาแฟเพราะใจรัก น่าจะเป็นเป้าหมายหลักของพี่เซน

แล้วก็ตรงไปจ่ายเงิน พี่เซนบอกว่า "ราคา 100 บาท แต่เห็นว่าเดินมา ลดให้ 20 บาท"

ประทับใจไปอีก

ที่ประทับใจก็เพราะ ผมไม่คิดว่าพี่แกจะลดราคาให้ผม และผมเองก็อยากจ่ายเต็ม ไม่อยากให้พี่เซนเกรงใจ ต้องขอบคุณพี่เซนมา ณ โอกาสนี้ด้วยนะครับ

สุดท้าย พี่เซนก็ถือโอกาสพาผมติดรถมอเตอร์ไซค์แล้วขับมาส่งที่ออฟฟิศ ระหว่างซ้อนมอเตอร์ไซค์พี่เซนบอกว่า ร้านกาแฟมันไม่ใช่แค่ร้านกาแฟ ร้านกาแฟมันเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เช่นในอังกฤษการเปลี่ยนแปลงก็เกิดจากคนที่มานั่งจิบกาแฟแล้วก็โสเหล่พูดคุยถึงเรื่องราวบ้านเมือง วิพากษ์วิจารณ์แล้วจับกลุ่มกัน แล้วนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลง

การไปกินโกโก้วันนี้ มันไม่ใช่แค่การได้กินโกโก้หนึ่งแก้วแล้วกลับ แต่ได้รู้ถึงความคิดและมุมมองของเจ้าของร้าน ที่มากกว่าแค่การเปิดร้านกาแฟแล้วขายเพื่อเอาเงินมาหมุนในธุรกิจ 

ร้าน Grindsize Bangkok เปิด จันทร์-ศุกร์ 09.00-13.00, 15.00-18.00 (13.00-15.00 มาจัดรายการกับพวกเอ็งไง พี่เซนบอกไว้) เสาร์-อาทิตย์ 09.00-18.00

ปล. นี่คือครั้งแรกที่ผมเขียนเกี่ยวกับร้านกาแฟ ผมไม่ใช่คนที่บ้ากาแฟ หรือคลั่งกับการกินแฟ ทั้งหมดเป็นมุมมองส่วนตัวของผม ที่ประทับใจคอนเซปท์ของร้านและอยากแชร์ให้อ่านกัน...





วันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

[รีวิว] กระติกน้ำ AVEX Freeflow

กระติกน้ำยี่ห้อ AVEX รุ่น Freeflow นี้ผมไปซื้อมาจากร้าน Thailand Outdoor Shop แถวเหม่งจ๋าย เป็นกระติกน้ำสแตนเลสสตีลแบบแบบสองชั้น

ที่ซื้อกระติกน้ำยี่ห้อนี้เพราะดูรีวิวมานาน ยั่วกิเลสอยากซื้อมานาน แล้วอยากได้กระติกน้ำที่มีความจุเยอะหน่อย จะได้ไม่ต้องเทียวเดินไปเติมน้ำหลายรอบ

กระติกน้ำนี้เป็นกระติกน้ำที่ถูกออกแบบมาสำหรับใช้ทั้งเวลาเดินทางเอาท์ดอร์เป็นหลัก 


ความจริงซื้อกระติกมาได้ซักพักแล้ว แต่อยากเอามาอัพผ่านบล็อกอีกครั้ง


อันนี้ภาพที่ถ่ายจากร้าน พี่คนขายเขาบอกว่า ความจริงอันนี้พนักงานจองแล้วแต่หักคอมาขายให้น้องให้เขาไปซื้อที่สาขาอื่นแทน เลยบอกฝากขอโทษพี่พนักงานด้วย T T


กลับมาบ้านมามาดูรูปเต็มๆ อันนี้เป็นกระติกขนาดความจุ
1,200ml ใส่น้ำกันเต็มที่เลย


เจ้าตัว AVEX รุ่นนี้ออกแบบเป็น unfinished stainless หรือสแตนเลสที่ยังทำไม่เสร็
จ มันก็เลยดูเก่าๆ ความจริงไม่ได้เก่า แต่เป็นที่ดีไซน์ต่างหาก


กระติกนี้บอกสเปคว่าเก็บความร้อนได้ 12 ชั่วโมง เก็บความเย็นได้ 34 ชั่วโมง 


มีโลโก้ AVEX อยู่บนฝากระติกดูเท่มากๆ


อันนี้คือปุ่มที่เอาไว้ใช้เวลากดเพื่อเปิดน้ำออก เมื่อเปิดฝาจะมีลิ้นกันน้ำออกคอยกั้นอยู่ ต้องกดปุ่มนี้เพื่อให้น้ำไหลออกมา


ฝาครอบลิ้นเปิดน้ำ เมื่อเปิดฝาจะเจอลิ้นกันน้ำออก ต้องกดปุ่มที่อยู่ด้านหลังเพื่อให้น้ำออก เป็นการออกแบบมาเพื่อกันน้ำรั่วออกจากกระติกโดยเฉพาะ


นอกจากมีปุ่มที่เอาไว้เซฟลิ้นกันน้ำออกแล้ว ยังมีปุ่มเล็กๆไว้"เซฟปุ่มเปิดน้ำ"อีกทีหนึ่ง หากกลัวว่าเอาใส่รวมกับของอื่นๆในเป้ แล้วกลัวว่าจะมีของไปกระแทกปุ่มทำให้น้ำรั่วออกมา ถ้ากดปุ่มนี้ลงไปปุ่มเปิดน้ำจะกดไม่ได้


ด้านใต้กระติกออกแบบเป็นพื้นยาง สำหรับกันลื่นโดยเฉพาะ


ทดสอบด้วยการวางบนรถเมล์สาย 36ก ที่แล่นด้วยความเร็ว กระติกไม่ล้มแม้แต่นิดเดียว


ลองเทน้ำให้ดู น้ำไม่ออกหากไม่กดปุ่ม


แต่พอกดปุ่มปั๊บ น้ำออกทันที


ตัวฝากระติกสามารถทำความสะอาดได้ รวมถึงลิ้นเปิดปิดน้ำ ก็ดึงออกแล้วทำความสะอาดได้เช่นกัน

สำหรับเจ้ากระติกน้ำ AVEX รุ่นนี้ยังสามารถใช้กับบรรดาเครื่องกรองน้ำพกพาทั้งหลายได้ด้วย และเหมาะแก่การพกน้ำสำหรับเดินทางไกล ด้วยความจุที่มากและการเก็บอุณหภูมิร้อน-เย็น สนนราคาอยู่ที่ 1,550 บาท หาซื้อได้ที่ร้าน Thailandoutdoor Shop ย่านเหม่งจ๋ายได้เลยครับ